หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง จากบ้านที่น่าอยู่ อบอุ่น กลับกลายมีแต่สิ่งสกปรกจับเกาะเต็มไปหมด ทั้งดินโคลน ของใช้แช่น้ำ ซึ่งควรรีบจัดการ ทำความสะอาด บ้านภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังน้ำลด ตามคำแนะนำของกรมการแพทย์โดยสถาบันโรคผิวหนัง เพื่อกำจัดเชื้อราที่กำลังจะมายึดบ้านแทน อีกทั้งยังส่งผลต่อผู้ที่เป็นภูมิแพ้กำเริบขึ้นมาได้ เพื่อให้สมาชิกภายในบ้านมีสุขอนามัยที่ดี แอดมินขอแชร์วิธีการฟื้นฟู ทำความสะอาด บ้านหลังน้ำท่วมและขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบอุทกภัยมีใจที่เข้มแข็ง อดทน สู้ผ่านพ้นมรสุมลูกนี้ 🙂
เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนลุย
สำหรับตัวเอง: เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงมือ รองเท้าบู๊ทยาง แว่นตา หน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูก
ขจัดสิ่งสกปรก: แปรงขัดด้ามสั้นและยาว ไม้ถูพื้น ไม้กวาดทางมะพร้าว ผ้าเช็ด ถุงขยะดำ/แดง น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ แอลกอฮอล์
อุปกรณ์เสริม(ถ้ามี): เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เครื่องเป่าลม ไม้รีดน้ำ
ตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย
- ตรวจสอบการรั่วของกระแสไฟฟ้าในบ้าน รวมถึงความแข็งแรงของบ้าน หากผิดปกติหรือไม่มั่นใจรีบปรึกษาช่างเฉพาะทาง
- สำรวจพื้นที่หาพบสัตว์มีพิษ ที่มีอันตรายให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- เปิดประตู หน้าต่าง ให้กว้างเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- มองหาบริเวณที่มีเชื้อรา เพื่อดำเนินการ ทำความสะอาด อย่างถูกวิธี และระวังอย่าให้ปลิวเข้าตา จมูกหรือปาก
ลงมือทำความสะอาด
ถ้าเป็นบ้านหลายชั้นควรเริ่มตั้งแต่ชั้นบนสุดไล่ลงมาชั้นล่างและทำจากด้านในสุดออกมายังด้านนอกของตัวบ้านเพื่อให้สิ่งสกปรกไม่ย้อนกลับเข้าไป
เริ่มด้วยฉีดน้ำล้างเพื่อขัดตะไคร่และคราบสกปรกออกจากพื้นผิวต่างๆ แล้วตามด้วยการขัดล้างด้วยน้ำยา ทำความสะอาด ตามแต่ละพื้นผิวที่โดน น้ำท่วม ถ้าเป็นการขัดผนังปูนหรือพื้นผิวที่หยาบควรขัดด้วยแปรงชนิดแข็ง โดยใช้ผงฟอกขาวในปริมาณ 1 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำ 1 แกลลอน
เครื่องแก้ว เครื่องกระเบื้อง ผลิตภัณฑ์จากพลาสติกหรือเมลามีน ให้แช่ในน้ำผสมคลอรีน (คลอรีน 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แกลลอน) อย่างน้อย 10 นาที เพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้นนำไปพึ่งแดดให้แห้ง แล้วจึงนำมาทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน
เครื่องเงินหรือโลหะ เช่น ช้อน ส้อม มีด หม้อ และกระทะ แนะนำไปต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 10 นาที เพื่อฆ่าเชื้อ แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน
เมื่อเจอเชื้อราไม่ควรฉีดน้ำล้างเพราะจะทำให้สูดดมสปอร์ที่ฟุ้งในอากาศเข้าไป แต่ควรใช้แอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำผสมน้ำอัตราส่วน 1 ถ้วย (300 มิลลิลิตร) ต่อน้ำ 3.8 ลิตร เพื่อเช็ดคราบเชื้อรา แล้วทิ้งไว้ 15-30 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ปล่อยให้แห้ง
เปิดพัดลมเป่าระบายอากาศในตัวบ้านให้ได้มากที่สุด เปิดประตูหน้าต่างหรือหากมีเครื่องเป่าลมร้อน/ไฟสปอตไลต์ สามารถใช้เป็นอีกตัวช่วยในการลดความชื้นได้เช่นกัน
ทริคบอกต่อ: วิธีการทดสอบว่าภายในบ้านแห้งหรือไม่ ให้ใช้พลาสติกขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ปิดทับบนพื้น ใช้เทปปิดโดยรอบ ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากยังมีละอองน้ำเกาะที่พลาสติกด้านในแสดงว่ายังมีความชื้นอยู่
ข้อควรระวัง :
ห้ามใช้น้ำยาซักผ้าขาว ผสมกับน้ำยาทำความสะอาดชนิดที่มีกรดหรือด่าง เพราะทำให้เกิดไอสารพิษที่เป็นอันตราย
ห้ามนำถุงทรายที่ใช้แล้วตอนที่กั้น น้ำท่วม เอากลับมาใช้อีกเพราะเป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรค
ห้ามทาสีใหม่หลังจากน้ำท่วมทันที เพราะหากบ้านยังมีความชื้นอยู่จะทำให้สีล่อน
ห้ามเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศขณะทำความสะอาด เพราะจะทำให้เชื้อราฟุ้งกระจายทั่วบ้าน
ช่องทางติดตามข่าวสาร
Facebook Page: KTGS
Line Official: @KTGS
สนใจสมัครงาน
อัพเดทตำแหน่งได้ที่นี่ เว็บไซต์-ตำแหน่งงานที่เปิดรับ หรือ Facebook KTGS รับสมัครงาน
โทร.02-791-9863 หรือ 9864
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th , www.sanook.com , www.cleanipedia.com , www.officemate.co.th
ขอบคุณภาพหน้าปกจาก www.freepik.com